Problem Me

หลังจากที่ได้ลองเล่น SharePoint 2010 แล้ว ก็ต้องปรบมือให้ ในความอลังการ ของระบบ ที่สามารถทำอะไรได้มากมายเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าใช้งานร่วมกับ Microsoft Office 2010 แล้ว ก็ยิ่งเสริมสมรรถภาพ ขึ้นไปอีก ช่างลงตัวเสียเหลือเกิน แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง Cost ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแล้ว ค่อนข้างสูงครับ ไม่ว่าจะเป็น ทางด้าน Software และ Hardware Software มาพูดถึงด้าน Software ก่อนค่า License ที่ต้องใช้กว่าจะ ใช้งานได้เบื้องต้น ก็คือ Windows Server 2008 64 bit SQL Server 2008 64 bit SharePoint Server 2010 SharePoint CAL รวมๆ กัน ก็ เกือบล้าน นี่ยังไม่รวม หากต้องการใช้งาน พวก Excel Service, Word Service, Visio Service อีกนะครับ ต้อง ซื้อเพิ่ม ถ้าจะพัฒนาต่อยอดก็ต้องซื้อ Visual Studio 2010 SharePoint Designer Expression Web, Expression Blend Hardware เรื่อง Hardware ก็ต้องใช้ เครื่อง Spec สูงครับ - CPU ต้อง 64 bit และ 2 core เป็นอย่างต่ำ แนะนำ 4 core 2 ตัว - RAM ต้อง อย่างน้อย 6 GB แนะนำ 8-16 GB - H/D ขึ้นกับ Content เพราะว่า เก็บข้อมูลใน Database และถ้า Content มาก ก็ต้องมี Spac...

จากที่ผมเคยใช้ Crystal Report ใน Windows Application มา มี Model ในการ ใช้งาน จริงๆ คือ 2 แบบหลักๆ คือ 1. Crystal Report Viewer Model คือ แบบ Basic เลยครับ ลาก Crystal Report Viewer มาวางบน form แล้ว ทำการ Binding Report ที่ได้เขียนไว้ แล้วเข้าไปกับตัว viewer ข้อดี คือ ง่าย เหมาะสำหรับ Application ตัวเล็กๆ ข้อเสีย คือ เวลามี Report หลายๆ ตัว ก็ต้องมี form ที่มี Crystal Report viewer หลายๆ form นั่นเอง หมายความว่าจะดู Report ไหน ก็เปิด form นั้นขึ้นมา ทำให้ ถ้าเป็น โปรแกรมที่มีหลายๆ report application ก็จะใหญ่มาก เนื่องจาก มี form report หลายตัว 2. Report Object Model คือ การสร้าง Report Object ขึ้นมา แล้ว ทำการ ส่ง Report ให้ตัว Crystal Report Viewer หลักๆ ที่ผมเคยใช้มี 2 แบบคือ 2.1 Report Document Object คือ ใช้ Object ReportDocument ทำการ Load Report ด้วย Function Load("filename") ข้อดี คือ ทำให้ application flexible สามารถทำในลักษณะ ส่งไฟล์ Report มา แล้วเปิด ไฟล์นั้น ได้เลย โดยใช้ ตัว viewer แค่ตัวเดียว ทั้งโปรแกรมได้ ข้อเสีย คือ function Load ค่อ...

พอ download มา install ดู อ้าว มี Crystal Report Template ให้ แต่ว่า ไม่ ตัว Engine ของ Crystal Report อยู่ และก็ไม่สามารถ สร้าง Report ได้ ปรากฎว่า เข้าไปดูใน web ของ sap ก็ไม่มี ข้อมูลใดๆ พบแต่ิ blog อันนี้ http://www.sdn.sap.com/irj/scn/weblogs?blog=/pub/wlg/14514 ว่า สามารถ download ได้ Free แต่ต้อง Register ก่อน วันนี้ Training Share point 2010 ทั้งวันครับ งานเลยไม่ค่อยได้ทำเท่า ไหร่ หลังกลับมาจาก Train แล้ว ต้องกลับมา ปั่นงานอีก

หลังจากลองเล่น SharePoint 2010 ได้ 3 วัน ก็ลองเอา silver light media player มาติดตั้ง แล้ว Load content เข้ามาดู ปรากฎว่า หน้า web แจ่มขึ้นมากครับ และง่ายมากในการติดตั้ง แค่ upload ตัว media player silver light ขึ้นไปบน site content แล้ว ทำการ Upload media ขึ้นไปที่ path เดียวกัน จาก นั้น Config ตัว หน้า web โดยการ insert web part แล้ว เลือก เป็น Silver light จากนั้น point url ของ ไฟล์ silver light ซึ่งนามสกุล .xap ขึ้นไป เสร็จแล้ว ใส่ค่า parameter เล็กน้อย ที่บอกว่า ตัว player จะ เล่น media อะไร เป็น auto play ไหม แค่นี้ ก็ได้ หน้า web ที่แจ่ม ๆ ขึนมาทันที โดยที่ ไม่ได้ code เลยสักนิดเดียว แต่ตัวที่ใช้อยู่เป็น free demo ครับ น่าจะมี หมดอายุ ใน phase ถัดไปก็จะลองหาเครื่องมือใหม่ๆ มา ลองดู ถ้ามีอะไรมา update อีกทีครับ

ผมได้ลองเล่น SharePoint 2010 ดูแล้ว ความเห็นผม ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ กว่า version ก่อนๆ ทั้งในส่วนของการ Integration กับ Office 2010 แล้ว น่าใช้มากการออกแบบระบบ ทำให้การทำงาน กับเอกสาร เป็น Community มากขึ้น มีการทำงานร่วมกัน และการใช้งาน เกี่ยวกับ Workflow Flamework ก็ทำได้ดี ขอชมครับ

ระบบ Work flow เป็นอีกระบบ ที่ผมต้องเข้าไป Handle สิ่งแรกที่ต้องดู คือ จะมี Software อะไรมาช่วยบ้าง เมื่อวานนี้ ผมได้คุยกับทีม K2 ซึ่งเป็น Software ระดับ Enterprise ตัวหนึ่ง ซึ่งพัฒนาอยู่บน Technology .Net Framework ดูแล้ว ก็ OK ในความสามารถ ของ Software สามารถ Customize ได้ตามความต้องการของ ธุรกิจ ผมเชื่อว่ามีหลายองค์กรที่นำระบบ Work flow ไปใช้อย่าง เต็มรูปแบบ ในองค์กร เพราะว่า มันช่วยให้การทำงานภายในองค์กร เป็นไปด้วยความ สะดวก คล่องตัว และลดความผิดพลาด ในการทำงานได้เยอะ ลดการใช้เอกสารแบบฟอร์มต่างๆ จะยกตัวอย่าง ที่เห็นชัดๆ ก็พวก Approve เอกสารต่างๆ เช่น การขออนุมัติวงเงิน ต่างๆ เป็นต้น การลาหยุด ของพนักงาน การเบิกค่าใช้จ่าย ผมว่าตัว K2- blackpearl

หลายวันมานี้ ผมอาจจะไม่ได้ มีกระทู้ใหม่ๆ มาให้ท่านผู้ติดตาม รับทราบเท่าไหร่นะครับ พอดีช่วงนี้ ผมต้องเข้าไปรับ Project ใหม่มาทำคือ รื้อระบบ Intranet, ระบบ Work flow อีกทั้ง ระบบ Datawarehouse และ BI Tools ของบริษัท ซึ่ง เป็นงานใหญ่พอสมควรต้องศึกษา อะไรเพิ่มเติมอีกมากมาย อย่างแรกที่ต้องศึกษาคือ การ ควบคุม Project ให้เป็นไปตามแผนงาน สิ่งแรกที่จะมาช่วยคือ โปรแกรม พวก Project Management Tools สิ่งที่คิดถึงเป็นโปรแกรมแรกคือ Microsoft Project แต่เนื่องจากที่บริษัท มี Lincense ไม่พอใช้ ผมเลยต้องหา Tools ประเภท Open Source มาใช้งาน จากที่ผมลอง Search หาและเปรียบเทียบก็เจอ Tools ตัวหนึ่งเป็น Open Source เขียนด้วย Java แต่ความสามารถก็พอตัว คือ OpenProject ข้อดีคือ - สามารถ Export เป็น File Microsoft Project ได้ ทำให้สามารถทำงานร่วมกับ คนอื่นที่ใช้ Microsoft Project - สามารถ Export เป็น PDF ซึ่งสามารถทำงานกับ ท่านที่ไม่มี Program Microsoft Project ได้ และมี Tools อื่นๆ อีกมาก แต่ตัวนี้ใช้งานถูกใจผมครับ ลองดูที่ Link เพื่อ หาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Comparison...