Crystal Report Report Class Model

จากที่ผมเคยใช้ Crystal Report ใน Windows Application มา มี Model ในการ ใช้งาน
จริงๆ คือ 2 แบบหลักๆ คือ
1. Crystal Report Viewer Model คือ แบบ Basic เลยครับ ลาก Crystal Report Viewer มาวางบน form
แล้ว ทำการ Binding Report ที่ได้เขียนไว้ แล้วเข้าไปกับตัว viewer
ข้อดี คือ ง่าย เหมาะสำหรับ Application ตัวเล็กๆ
ข้อเสีย คือ เวลามี Report หลายๆ ตัว ก็ต้องมี form ที่มี Crystal Report viewer หลายๆ form นั่นเอง
หมายความว่าจะดู Report ไหน ก็เปิด form นั้นขึ้นมา ทำให้ ถ้าเป็น โปรแกรมที่มีหลายๆ report
application ก็จะใหญ่มาก เนื่องจาก มี form report หลายตัว


2. Report Object Model คือ การสร้าง Report Object ขึ้นมา แล้ว ทำการ ส่ง Report ให้ตัว
Crystal Report Viewer หลักๆ ที่ผมเคยใช้มี 2 แบบคือ

2.1 Report Document Object คือ ใช้ Object ReportDocument ทำการ Load Report ด้วย Function
Load("filename")
ข้อดี คือ ทำให้ application flexible สามารถทำในลักษณะ ส่งไฟล์ Report มา แล้วเปิด
ไฟล์นั้น ได้เลย โดยใช้ ตัว viewer แค่ตัวเดียว ทั้งโปรแกรมได้
ข้อเสีย คือ function Load ค่อนข้างใช้ resource มาก ในการ Load Report ขึ้นมาครั้งแรก ทำให้โปรแกรม ช้าทุกครั้ง กรณีเรียก report ครั้งแรก

2.2 Report Class คือ ใช้ ReportClass ทำการ สร้าง Report Class ของแต่ละ report ขึ้นมาลักษณะการ ทำงานคล้ายๆ 2.1 แต่ในการสร้าง Report Class นั้นสามารถ กำหนด feature ในการ Cach ได้
ข้อดีี คือทำให้ การทำงาน flexible คล้ายๆ กับ 2.1 แต่ มีความเร็วกว่าในการ Create Report
ข้อเสีย คือ ต้องทำการ Define Report Class ทุกตัวที่จะใช้งาน ทำให้ ไม่สามารถเปิด report อื่นๆ นอกจากที่ define class ไว้ในโปรแกรม


สรุป ณ ตอนนี้ ผมเปลี่ยนจาก 2.1 มาเป็น 2.2 เนื่องจากสาเหตุ เรื่องต้องการเพิ่ม performance ของโปรแกรม ให้ทำงาน เร็วขึ้น เนื่องจาก function load มันช้ามากๆ บางครั้งติดปัญหาเรื่อง I/O อีกตากหาก

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ8 เมษายน 2553 เวลา 14:38

    รบกวน ถามหน่อยครับ สรุปตอนนี้ ทำให้ โหลดได้เร็วๆ หรือยังครับ

    ถ้าทำตามข้อ 2.2 พอจะมีวิธีเขียน code มั้ยครับ

    ตอบลบ
  2. Tech9 เมษายน 2553 เวลา 21:02

    ก็ จากที่ทดสอบคือ ใช้ตามข้อ 2.2 จะเร็วกว่า 2.1 ครับ เนื่องจาก Report Class จะสามารถ define พวก cache ได้ จริงๆ แล้ว visual studio crate method ให้ครับ
    แต่อย่างไรก็ดี ในการ Create Report ครั้งแรก จะใช้เวลามาก กว่าครั้งถัดไปครับ แก้ปัญหาแบบหน้าด้านๆ โดยให้ app แสดง progress bar แสดง
    status การ Load ครับ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ20 กันยายน 2553 เวลา 18:04

    รบกวนช่วยอธิบายวิธีสร้างตัว report class ได้หรือเปล่าคับ คือตอนนี้ใช้วิธี 2.1 อยู่แล้วมันช้ามากครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  4. Tech17 ตุลาคม 2553 เวลา 17:48

    ขอโทษ ที่ตอบช้าไปหน่อยนะครับ: จริงๆ ข้อ 2.2 นั้นง่ายมากครับ ถ้าใช้ Visual Studio อยู่ ก็แค่ New -> File แล้วเลือก crystal report ก็แค่นั้น ตัว Visual Studio จะทำการ Generate File ออกมาให้ 2 ตัวคือ .rpt และ .cs กรณีใช้ c# แล้ว ก็ design report ตามปกติครับ
    เวลาใช้งาน ก็แค่ ประกาศ report เป็น Objectตัวหนึ่ง ใช้งานเหมือนข้อ 2.1 ครับ แต่ไม่ต้อง Load ใช้คำสั่ง เหมือน Create Object ทั่วไป แล้ว โยนข้อมูล เข้า report ตามปกติ ครับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาเด็ก กลืน ดินน้ำมัน

ท่านเคยเจอปัญหา นี้บ้างไหม เด็ก เล็ก อายุ 3-5 ขวบ กลืนดินน้ำมัน ปัญหาคือ ในดินน้ำมัน นั้น ล้วนประกอบไปด้วยสารเคมี ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายได้ โดย ส่วนประกอบของดินน้ำมัน (อย่างง่าย)ได้แก่ 1. ดินสอพอง 240 กรัม 2. น้ำมันเครื่องเบอร์ 50 (ยังไม่ได้ใช้) จำนวน 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร 3. พาราฟินแข็ง 40 กรัม 4. สีผง (สีน้ำมันผลจะดีที่สุด) 5. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 6. บิกเกอร์ 7. ขันน้ำ วิธีทำ 1. บดดินสอพองกับสีผงให้ละเอียด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ร่อนเอาผงละเอียดใส่ในขัน 2. เอาพารฟินใส่บิกเกอร์ ให้ความร้อนจนหลอดละลาย ยกวางบนพื้น 3. เทน้ำมันเครื่องลงในพาราฟินเหลว คนให้เข้ากัน แล้วเทลงในชันที่มีดินสอพองผสมสี ที่เตรียมไว้คนให้เข้ากัน แล้วใช้มือนวดจนผสมกันทั้งก้อน 4. ตั้งทิ้งไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้นนวดต่ออีกครั้ง ท่านสังเกตส่วนประกอบแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำมันเครื่อง หรือ สี นั้น ล้วน เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนั้น ท่านคงเคยได้ยินข่าวเด็ก กินน้ำมันเครื่องแล้ว ทำให้พัฒนาการของสมอง และร่างกายลดลง นะครับและการกลืนกินเจ้าดินน้ำมันเข้าไป โดยไม่รู้เรื่อง หรือ ทำไปด้วยด้อยประสบการณ์นั้น ยังอาจทำให้เจ้าดินน้ำมัน ไปอุดตันภา...
อ่านเพิ่มเติม

ปัญหา Custom Paper Size บน Crystal Report

ก่อนจะ แปะ code HiPortfolio Service ผมพบปัญหา อันใหญ่ อันหนึ่ง นั่งแก้ปัญหา มาหลายอาทิตย์ จนต้องถอดใจ เปลี่ยนไปใช้ Report Viewer ของ Microsoft แทน Crystal Report เรื่องของเรื่องคือ โปรแกรมที่ผม พัฒนาเป็น Windows Application ใช้ Crystal Report 2008 เป็น Engine ในการทำ Report ทั้งหมด Report ปกติ ก็จะใช้กระดาษ A4 เป็นหลัก ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเดือนที่แล้ว ได้มีการเพิ่ม Function Print ใบเสร็จ ซึ่งต้อง ใช้กระดาษ เป็น Custom Form (ขนาดกระดาษ กว้าง 8.5 inch สูง 7 inch แนวกระดาษ เป็น Portrait )เนื่องจาก เป็น กระดาษต่อเนื่อง และเป็น Form ของใบเสร็จซึ่งมีขนาด ไม่มาตรฐาน ผมใช้เวลา กับมัน ประมาณ 3 สัปดาห์พบว่า Design Report บน Crystal Designer แล้ว Preview และ Print บนกระดาษได้ ไม่มีปัญหาใดๆ แต่พอLoad Report เข้ามาแสดงที่ Program ด้วย Object Crystal Report Viewer 2008 บน Program ที่เขียนขึ้น กลับพบปัญหาว่า 1. เวลาสั่งพิมพ์ออกมา ที่ Printer ซึ่งเป็น Dot Metrix EPSON LQ-2180 ผลลัพธ์ บนกระดาษ กลับ แสดงผบเป็น Landscape 2. ผมเพิ่ม Code บังคับให้แสดงผลออกเป็น Portrait ด้วยการส่ง parameter ไปให้ repor...
อ่านเพิ่มเติม

Function Baht Text บน Crystal Report

ผมว่าหลายท่านก็คง เคยใช้ Function BahtText ใน Excel มาแล้ว แต่ปรากฎว่า บน Crystal Report ไม่มีให้ใช้ ก็ต้องเขียนมันขึ้นมาเอง ละ บางท่านก็คง มี Function ไ้ว้ใช้อยู่แล้ว แต่ผมก็ขอเสนอ Idea ในการเขียนไว้หน่อยแล้วกัน เผื่อว่าใคร จะนึกไม่ออก บอกไม่ถูก เคยเขียนแล้วแต่ ไม่รู้ เอาไฟล์ไปไว้ไหน ก็มาเอา Code ผมไป ประยุกต์ใช้ ก้อ ไม่ว่ากัน (ได้เฉพาะเลขบวก หรือ มากกว่า หรือเท่ากับ ศูนย์ และ ตัวเลขไม่เกิน 12 หลัก ) Concept ก็ง่ายๆ ตามวิธีของผม คือ 1. วิธีการแปลง ตัวเลขเป็น String ก่อน ด้วย จำนวนทศนิยม 2 ตำแหน่ง ตัด Comma หรือ เครื่องหมาย ฿ หรือ $ ออก 2. แยกส่วน บาท และ สตางค์ ออกจากกัน ด้วยทศนิยม 3. นำส่วนสตางค์ มาแปลง เป็นคำ 4. นำส่วนบาท มาแปลง เป็นคำ 5. นำส่วนบาท และ สตางค์ ที่เป็น คำแล้ว มาเชื่อมกัน 6. แปลงคำพิเศษ เช่น ยี่สิบ หรือ คำว่า เอ็ด หลักการมีแค่นี้ คราวนี้มาดู Code (เป็น Code ใน Crystal Report 2008) Function ( NumberVar Amount); ( Local StringVar TextOut:=""; Local StringVar Array N := ["","หนึ่ง","สอง","สาม","สี่",...
อ่านเพิ่มเติม